SMEs Project
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
โครงการภายใต้กรอบความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน (อังกฤษ: SMEs Projects) เป็นโครงการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ภายใต้กรอบความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนที่มุ่งให้การช่วยเหลือ ทั่วถึงกระจายในทุกภูมิภาค โดยเน้นให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการกำหนดความต้องการของตนเอง และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้ประกอบการ อุตสาหกรรมไทย
แนวคิดโครงการ
[แก้]การเติบโตของธุรกิจ SMEs นับเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จึงร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จัดทำโครงการภายใต้กรอบความร่วมมือ ระหว่างภาครัฐและเอกชน ที่มุ่งเน้น 2แนวทาง คือ การยกระดับทักษะความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ (skills enhancing) และการเพิ่มความสามารในการแข่งขันของSMEs (competintiveness improvement) เพื่อเพิ่มทักษะและคุณภาพด้านบริหารจัดการ เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับ SMEs ในระดับอุตสาหกรรมและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจไทยทั้งในปรเทศและต่างประเทศ อีกทั้งยังให้ความสำคัญสนับสนุนด้านการเงิน การตลาด การพัฒนาระบบโลจิสติกส เพื่อลดต้นทุนการดำเนินงาน เพิ่มความรวดเร็วเพิ่มผลิตภาพ ของอุตสาหกรรมเพื่อเกิดความร่วมมือระหว่างกัน ขยายการพัฒนาอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการ SMEs ให้กระจายในภูมิภาคอันเป็นกลไก ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และสังคมในระดับภูมิภาค
บทสรุปโครงการ
[แก้]ในการดำเนินโครงการข้างต้น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยมีเป้าหมายมุ่งส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ในทุกระดับ ทุกสาขา อุตสาหกรรมและในทุกพื้นที่ทั่วประเทศให้ได้รับการเพิ่มทักษะความสามารถ (Skill Enhancing) และเพิ่มเติมความสามารถ ในการแข่งขัน (Competitiveness Improvement) โดยมีการวางแผนขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอย่างครอบคลุมจากต้นน้ำถึงปลายน้ำ สร้างต้นแบบการรวมกลุ่มเครือข่ายวิสาหกิจอย่างครบวงจร และสร้างแบบอย่างความสำเร็จหรือ Role Model เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับ ผู้ประกอบการ SMEs โดยเน้น ให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการกำหนดความต้องการ กลุ่มเป้าหมาย และการดูแลรูปแบบการพัฒนาให้สอดคล้อง กับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ เพื่อให้เกิดการพัฒนา เสริมสร้างความรู้ ความสามารถในการเป็นผู้ประกอบการที่สมบูรณ์แบบ อย่างแท้จริง โดยอาศัยพันธมิตรและกลไกเครือข่ายของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยที่มีอยู่ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งได้มีการ ระดมสรรพกำลังและบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญจากทุกสาขา ใช้ประโยชน์จากประสบการณ์ด้านระบบเครือข่ายและบริหารจัดการของภาคเอกชน มาช่วยกันพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ SMEsไทย ให้เข้มแข็งและมั่นคงเป็นรากฐานที่สำคัญของเศรษฐกิจประเทศ และเศรษฐกิจชุมชนในภูมิภาค
ความสำเร็จทั้งหมดที่ได้รับเป็นผลมาจากความมุ่งมั่นของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว.ที่ต้องการให้ SMEs ซึ่งเป็นรากฐานของเศรษฐกิจไทยสามารถเพิ่มความสามารถและคุณภาพในการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและ ยั่งยืน
โครงการนี้ มีกำหนดดำเนินโครงการระยะเวลา 6 เดือน เริ่มต้นในเดือนมีนาคม 2550 และสิ้นสุดในเดือนกันยายน 2550 ด้วยเงินงบประมาณ 800 ล้านบาท
โครงการย่อย 6 โครงการ
[แก้]โครงการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรม
[แก้]โครงการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรม(Role Model) ดำเนินการสร้างต้นแบบการยกระดับมาตรฐานของอุตสาหกรรมทั้งระบบ ได้แก่
- อุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์
- โครงการสนับสนุนงานประกวดสิ่งพิมพ์แห่งชาติ (Thai Print Awards) เชิญชวนผู้ประกอบการเข้าประกวดงานสิ่งพิมพ์และได้ประกาศผล ในงานประกวดสิ่งพิมพ์แห่งชาติ ครั้งที่ 2 (2nd Thai Print Awards 2007) เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2550 ณ.โรงแรมแชงกรีลา เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจและประกาศผลความสำเร็จของการยกระดับมาตรฐานการพิมพ์ของประเทศไทยทั้งระบบ
- โครงการจัดตั้งศูนย์ทดสอบมาตรฐาน วัสดุ และอุปกรณ์การพิมพ์ ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ทดสอบมาตรฐาน วัสดุ และอุปกรณ์การพิมพ์ในนิคม อุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์สินสาคร จ.สมุทรสาคร เพื่อให้บริการการทดสอบ วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ ให้ได้มาตรฐาน เป็นที่ยอมรับของต่าง ประเทศ และทำหน้าที่เป็นศูนย์วิจัยและพัฒนา
- โครงการจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาและโรงเรียนสร้างช่างพิมพ์ ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาและโรงเรียนสร้างช่างพิมพ์ ที่นิคมอุตสาหกรรม การพิมพ์และบรรจุภัณฑ์สินสาคร จ.สมุทรสาคร เพื่อผลิตช่างพิมพ์ที่มีคุณภาพเพียงพอ กับความต้องการของตลาด
- โครงการจัดตั้งหน่วยบ่มเพาะวิสาหกิจ กลุ่มธุรกิจสิ่งพิมพ์ จัดตั้งศูนย์บ่มเพาะกลุ่มธุรกิจสิ่งพิมพ์และรับบุคลากรมาช่วยบริหารงาน โดยจับมือกับ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และภาควิชาเทคโนโลยีการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี พระจอมเกล้าธนบุรี ร่วมกันกำหนดหลักสูตรการบ่มเพาะ
- อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยาง
- ผลิตบุคลากรด้านการมาตรฐานยางเพื่อสร้างและพัฒนามาตรฐานยางในประเทศ และเพิ่มบทบาทของไทยในการกำหนด มาตรฐานสากล ผลิตภัณฑ์ที่ดำเนินการกำหนดมาตรฐานได้แก่ จัดทำร่างมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยาง-แผ่นยางสำหรับทำ ฝายยาง, ผลิตภัณฑ์ยาง-ยางกันกระแทก, มาตรฐานการทดสอบและข้อกำหนดความทนทานของล้อยางตัน
- โครงการจัดตั้งห้องปฏิบัติการวิจัยและทดสอบยางล้อ ให้บริการทดสอบยางล้อให้ได้มาตรฐานสากล และเป็นแหล่งของการวิจัยและพัฒนายางล้อ ยานยนต์ของ SMEs จัดตั้งที่มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายานครปฐม
โครงการจัดตั้งศูนย์บ่มเพาะ SMEs 5 ภูมิภาคและรายสาขา
[แก้]โครงการจัดตั้งศูนย์บ่มเพาะ SMEs 5 ภูมิภาคและรายสาขา (Incubation Center) จากหลักการและเหตุผล ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม โดยมอบหมายให้สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยในฐานะผู้แทน ภาคเอกชน และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ในฐานะผู้แทนภาครัฐ ร่วมมือจัดทำโครงการเพื่อยกระดับทักษะความสามารถ ของผู้ประกอบการโดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างความรู้และขีดความสามารถแก่ผู้ประกอบการให้มีศักยภาพในการประกอบธุรกิจโดยเฉพาะ ผู้ประกอบการ SMEs ที่ยังขาดพื้นฐานความรู้ ด้านการผลิต การตลาด เทคโนโลยี การลดต้นทุน ความพร้อมและทักษะที่เพียงพอสำหรับการ วางแผนการจัดการพัฒนาธุรกิจรวมถึงการขาดเครือข่ายธุรกิจที่จำเป็นต่อการเริ่มธุรกิจใหม่ และเงินทุนที่เพียงพอต่อการเริ่มต้นกิจการ ซึ่งผู้ ประกอบการเหล่านี้กระจายอยู่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ
ในการนี้สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมได้พิจารณาทำโครงการนี้ขึ้น เพื่อขยายการ ให้บริการศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจ กระจายไปทั่วถึงในทุกภูมิภาคของประเทศโดยเน้นให้ภาคเอกชน คือ สมาชิกสภาอุตสาหกรรมเข้ามามีส่วนร่วม ในการกำหนดหลักสูตร กลุ่มเป้าหมายและดูแลรูปแบบการบ่มเพาะให้สอดคล้องกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่อย่างแท้จริง ทั้งนี้เนื่องจาก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเป็นแหล่งรวมผู้ประกอบการ เพื่อให้เกิดพัฒนาเสริมสร้างผู้ประกอบการเดิม และสร้างแรง บันดาลใจให้เกิดความต้องการเป็นผู้ประกอบการ ซึ่งผลจากการจัดทำโครงการนี้ จะสามารถดำเนินการเสริมสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการที่สมบูรณ์แบบ โดยการสนับสนุนและให้บริการที่จำเป็นในการริเริ่มธุรกิจอย่างครบวงจร เพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถในการเป็นผู้ประกอบการอย่างแท้จริง โดยมีวัตถุประสงค์
- เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชนและชุมชน ให้เข้ามามีส่วนใน การพัฒนาผู้ประกอบการทั่วประเทศ โดยอาศัยกิจกรรมของ หน่วยบ่มเพาะวิสาหกิจที่จัดตั้งขึ้นในทุกภูมิภาคของประเทศ
- เพื่อวางพื้นฐานการพัฒนาผู้ประกอบการเดิมให้มีความรู้และทักษะในการประกอบธุรกิจ และพัฒนาผู้ประกอบการใหม่หรือทายาทธุรกิจให้เป็น ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพ
- เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการในด้านต่างๆ อาทิ เทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์กระบวนการผลิต การบริหารต้นทุนการผลิต เป็นต้น
โครงการนี้ได้จัดหลักสูตรอบรมและกิจกรรมโดยเน้นให้สอดคล้องกับความต้องการของภาคเอกชนในพื้นที่เพื่อการยกระดับความรู้ความสามารถ ของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมในทุกภูมิภาค โดยได้คัดเลือกผู้ประกอบการ 75 รายเข้าร่วมโครงการศูนย์บ่มเพาะ เป็นจำนวนมากกว่า 5,000 ชั่วโมง
- ภาคเหนือ : ตั้งศูนย์บ่มเพาะด้านอัญมณี มหาวิทยาลัยราชภัฎกำแพงเพชร ศูนย์อุดมศึกษาแม่สอด จ.ตาก
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : ตั้งศูนย์บ่มเพาะด้านสิ่งทอ มหาวิทยาลัยราชภัฎชัยภูมิ
- ภาคกลาง : ตั้งศูนย์บ่มเพาะด้านเครื่องเคลือบดินเผา สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ จ.ราชบุรี
- ภาคตะวันออก : ตั้งศูนย์บ่มเพาะด้านอัญมณี มหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตสารสนเทศ จันทบุรี จ.จันทบุรี
- ภาคใต้ : ตั้งศูนย์บ่มเพาะด้านไม้ยางพารา มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จ.นครศรีธรรมราช
โครงการจับคู่ธุรกิจ
[แก้]โครงการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) มาจากแนวคิดของการเติบโตของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่องยั่งยืน ซึ่งภายใต้กระแส โลกาภิวัฒน์ที่ส่งผลให้เกิดการแข่งขันด้านการค้าการลงทุนที่รุนแรงทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ผู้ประกอบการ SMEs จำเป็นต้องดำเนิน กลยุทธ์การค้าการลงทุนในเชิงรุกและสามารถเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลก ซึ่งการส่งเสริมให้มีกิจกรรมทางการตลาด เพื่อกระตุ้นและสร้าง Demand มารองรับผลผลิตของอุตสาหกรรม ตลอดจนการหาตลาดเป้าหมายใหม่ๆ และพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่างเหมาะสม เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ การส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการเชื่อมโยงของ Supply Chain and Industrial Clusters ยังเป็นส่วนสำคัญ ที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ SMEs
โครงการนี้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริม 4 ด้าน ประกอบด้วย
- ส่งเสริมกิจกรรมการตลาดทั้งในและต่างประเทศ
- ส่งเสริมผู้ซื้อพบผู้ขาย
- ส่งเสริมให้มีตลาดกลางซื้อขายวัตถุดิบและชิ้นส่วน
- ส่งเสริมการจัดซื้อวัตถุดิบและชิ้นส่วนระหว่างประเทศ
ดังนั้น การปรับตัวของ SMES ไทยท่ามกลางกระแสโลกาภิวัฒน์เพื่อช่วงชิงโอกาสในการขยายการลงทุนในและต่างประเทศ เพิ่มขีดความสามารถ ในการแข่งขันด้วยการมีต้นทุนที่ต่ำ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐอย่างเพียงพอ เพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีวัตถุประสงค์
- ส่งเสริมการสร้างและขยายธุรกิจการค้าการลงทุน โดยเฉพาะการสร้างเครือข่ายการค้าการลงทุน
- เพื่อส่งเสริมกิจกรรมแสดงศักยภาพ นวัตกรรม เทคโนโลยีของ SMEsในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมให้เป็นที่รู้จักและยอมรับทั้งในและต่างประเทศ
- เพื่อส่งเสริมการพัฒนา Supply Chain and Industrial Clusters เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของ SMEs ทั้งในระดับ ประเทศและสากล
- เพื่อสนับสนุน SMES ไทยเติบโตอย่างเข้มแข็ง ด้วยการให้ข้อมูลที่สำคัญอย่างครบถ้วน
- เพื่อสร้างช่องทางเผยแพร่ข้อมูลด้านการตลาด ที่มีข้อจำกัดด้านงบประมาณ ให้เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ
โครงการนี้ช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจ และเชื่อมโยงอุตสาหกรรมให้กับผู้ประกอบการ SMEs โดยส่งเสริมผู้ซื้อพบผู้ขาย เพื่อสร้างพันธมิตร พัฒนาสินค้า เปิดตลาด ยกระดับ SMEs ผ่านกิจกรรมการจับคู่ธุรกิจและจัดงานแสดงสินค้า มากมายทั้งในประเทศทั้งกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ในต่างประเทศ ได้แก่ ประเทศมาเลเซีย แอฟริกาใต้ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และเวียดนาม
โครงการกองทุนฟื้นฟูสภาพเครื่องจักร
[แก้]โครงการกองทุนฟื้นฟูสภาพเครื่องจักร (Machine Fund) มาจากหลักการและเหตุผล เครื่องจักรเป็นตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนการผลิตสินค้าในอุตสาหกรรมสาขาต่างๆ การที่ราคาเครื่องจักรมีมูลค่าสูงมาก โดยเฉพาะเครื่องจักรที่มี เทคโนโลยีสูง จึงส่งผลกระทบต่อการลงทุนและขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทยและผู้ประกอบการ SMEs อย่างมาก
เพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ผู้ประกอบการ และลดการนำเข้าเครื่องจักรจากต่างประเทศ ประเทศไทยจำเป็นต้องมีนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนพัฒนาส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมได้มีโอกาสเข้าถึงเครื่องจักรที่เหมาะสมได้อย่างชัดเจน ต่อเนื่อง และบูรณาการ
ปัจจุบันประเทศไทยมีการนำเข้าเครื่องจักรอุตสาหกรรมในอัตราที่สูง ในปี 2548 มีการนำเข้าเครื่องจักรถึง 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 6.8% ของมูลค่าการนำเข้าทั้งหมดของประเทศไทย และมีเครื่องจักรที่นำเข้าสะสมตลอด 20 ปี ผ่านมาจำนวน 8 หมืนล้านเครื่อง ในจำนวนนี้ 50% เป็นเครื่องจักรที่สมควรต้องปรับปรุงประสิทธิภาพเพราะมีสภาพเก่าแก่มาก
เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมได้มีโอกาสได้ใช้เครื่องจักรที่ทันสมัยมากขึ้น และเป็นการส่งเสริมฟื้นฟู เครื่องจักรภายในประเทศ และลดการนำเข้าเครื่องจักรจากต่างประเทศ จึงจัดทำโครงการ Machine Fund ขึ้นเพื่อเป็นแหล่งสนับสนุน เงินทุนดอกเบี้ยต่ำช่วยเหลือผู้ประกอบการจำนวน 50 รายที่ต้องการทุนสำหรับพัฒนาประสิทธิภาพและเทคโนโลยีของเครื่องจักรให้ทันสมัย เพื่อให้ทันกับการแข่งขันด้วยการช่วยจัดหาเงินทุนดอกเบี้ยต่ำและสนับสนุนดอกเบี้ย 3%ให้กับผู้ประกอบการ SMEs เป็นระยะเวลา 5 ปี
โครงการส่งเสริมเครือข่ายระบบจัดส่งสินค้าและพัสดุ
[แก้]โครงการส่งเสริมเครือข่ายระบบจัดส่งสินค้าและพัสดุ (Logistics Capacity Building )
ดำเนินโครงการ ซึ่งประกอบไปด้วย 4 โครงการย่อย คือ
- โครงการพัฒนาขีดความสามารถ SMEs ด้านโลจิสติกส์
- เชื่อมโยงกลุ่มเครือข่าย SMEs เพื่อลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ จัดอบรมความรู้ จัดกิจกรรม และสร้างการรวมกลุ่มให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรม SMEs พัฒนาการจัดการด้านโลจิสติกส์ จำนวนมากกว่า 1,400 ราย
- โครงการ Logistics Clinic
- จัดตั้งศูนย์ให้บริการคำปรึกษา ให้ความรู้และแนะนำกลยุทธ์ทางด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของผู้ประกอบการ SMEs และได้เข้าดำเนินการพัฒนาระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชนจนสมบูรณ์ครบทั้งระบบให้กับSMEsจำนวนมากกว่า10ราย
- โครงการพัฒนาต้นแบบ เครื่องมือ เครื่องจักร อุปกรณ์ และเทคโนโลยีด้านโลจิสติกส์
- สำรวจและพัฒนาต้นแบบเครื่องมือ เครื่องจักร อุปกรณ์มาตรฐาน ได้แก่ พาเลท คอนเวเยอร์ แขนกล และรวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีทางด้านโลจิสติกส์ที่ทันสมัย พร้อมกับการเผยแพร่ต้นแบบเทคโนโลยีด้านโลจิสติกส์ (Engineering Design) เพื่อสร้างเสริมประสิทธิภาพ และลดต้นทุนทางด้านเทคโนโลยีโลจิสติกส์ ให้กับผู้ประกอบการ SMEsไทย
- โครงการพัฒนารหัสสินค้าบาร์โค้ด
- จัดอบรมความรู้เรื่องบาร์โค้ดเบื้องต้น และการประยุกต์ใช้รหัสสินค้าบาร์โค้ดตามภูมิภาค พร้อมทั้งขึ้นทะเบียนสมาชิกในระบบมาตรฐาน GS1 และจัดพิมพ์สติกเกอร์บาร์โค้ดให้กับผู้ประกอบการ จำนวน 850 ราย เป็นระยะเวลา 2 ปี
โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขาระดับจังหวัดและภูมิภาค
[แก้]โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขาระดับจังหวัดและภูมิภาค (competitiveness Improvement)
ดำเนินโครงการ ซึ่งประกอบไปด้วย 3 โครงการย่อย คือ
- โครงการเติมเต็มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการผลิต
- สร้างต้นแบบผู้ประกอบการ SMEs ในแต่ละภาคอุตสาหกรรมยกระดับทักษะความสามารถของผู้ประกอบการ และเติมเต็มความสามารถในการแข่งขัน สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน มีจริยธรรมและความรับผิดชอบต่อสังคม โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการจำนวน 44 กิจการ ครอบคลุม 37 กลุ่มอุตสาหกรรม และ 7 กลุ่มจังหวัด
- โครงการศูนย์ข้อมูลอุตสาหกรรม
- พัฒนาฐานข้อมูลเพื่อการเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการ ทั้งในประเทศและต่างประเทศในเรื่องการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ให้ผู้ประกอบการ SMEs ใช้ข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการผลิต เบื้องต้นได้ทำการรวบรวมฐานข้อมูลคลัสเตอร์ต้นแบบของกลุ่มเครื่องจักรการเกษตร กลุ่มเครื่องจักรโลหะการ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอะไหล่
- โครงการพัฒนาคุณภาพหนังดิบภายในประเทศและพัฒนาผู้ประสานงานพัฒนาคลัสเตอร์
- เป็นแบบอย่างความสำเร็จในการเชื่อมโยงธุรกิจภาคอุตสาหกรรมกับภาคเกษตรกรรมโดยร่วมมือกับสถาบันคีนันและมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เสริมสร้างให้ SMEs เห็นความสำคัญของการรวมกลุ่มในลักษณะของเครือข่ายวิสาหกิจ ร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์จากต้นน้ำถึงปลายน้ำ วิจัยพัฒนาคุณภาพหนังดิบควบคู่กับการพัฒนาบุคลากร ได้ผู้ประสานงานพัฒนาคลัสเตอร์จำนวน 28 คน เพื่อช่วยสืบทอดและขยายผลโครงการให้เกิดความต่อเนื่อง